mastercard ไม่ใช่แค่บัตรเครดิต อยากรูดปื้ด รู้เรื่องนี้รึยัง

mastercard

          ว่าด้วยเรื่องของบัตร mastercard ก่อนอื่นไปรู้จักบัตรเครดิตกันให้มากขึ้นก่อน สิ่งนี้ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกาปี ค.ศ. 1914 โดยบริษัทเยอเนอรัลปิโตรเลียม คอร์ปอเรชั่น ออฟแคลิฟอร์เนีย ซึ่งปัจจุบันคือบริษัท โมบิลออยส์ จำกัด โดยทำบัตรดังกล่าวให้กับลูกค้า และพนักงานของตน ที่ได้รับเลือกสรรแล้วนำไปชำระค่าน้ำมัน ลักษณะก็เหมือนบัตรสวัสดิการนั้นเอง ซึ่งตอนนั้นหน้าตาไม่ใช่บัตรเครดิตแบบปัจจุบันนี้ แต่จะมีลักษณะเหมือนกับเหรียญโลหะมากกว่า

ต่อมาราวค.ศ. 1950 นาย แฟรงค์ แมคนามารา ซึ่งเป็นนักธุรกิจเกิดลืมพกกระเป๋าเงินติดตัวไปทานอาหาร และไม่มีเงินจ่าย จึงต้องขอให้ภรรยานำเงินมาชำระให้ จึงคิดว่าถ้ามีบัตรพิเศษที่ใช้แทนเงินได้ก็จะดี จากนั้นก็ปรึกษากับ นายราล์ฟ ชไนเดอร์ ซึ่งเป็นทนายความ และได้สร้างบัตรไดเนอร์สคลับ ขึ้นมาเพื่อใช้ในการซื้อสินค้าและบริการแทนการชำระเงินโดยตรง ภายหลังได้มีบริษัทชื่ออเมริกันเอกซ์เพรส ได้ออกบัตรเครดิต โดยมีวัตถุประสงค์ในครั้งแรกเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่จะต้องเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ต้องพกเงินสดเป็นจำนวนมาก โดยได้นำเสนอบัตรที่สามารถนำไปขึ้นเงินได้ที่ธนาคารต่าง ๆ ทั่วโลก 30 ปีต่อมา mastercard ถือกำเนิดขึ้น แต่โดยหลักการแล้ว mastercard คือ ไม่ใช่บัตรเครดิต

mastercard เครือข่ายการชำระเงินที่ใหญ่ที่สุด

          เราส่วนใหญ่รู้จัก mastercard คือ ในลักษณะแผ่นพลาสติกรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าในกระเป๋าเงินของเรา เวลาอย่างซื้ออะไรสักอย่าง เราก็สามารถชักออกมาอย่างรวดเร็ว เพื่อรูดซื้อสินค้าและบริการ แต่เราอาจรู้จัก mastercard แค่โลโก้ กลม ๆ เหลืองแดงสองวง ประดับบนบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของพวกเรา แต่ไม่รู้ว่าโลโก้ที่ว่า มันแสดงเครือข่ายการชำระเงินขนาดใหญ่ที่ใช้ในการย้ายเงินจากธนาคารผู้ออกบัตรไปยังธนาคารของร้านค้าทุกครั้งที่ทำการซื้อ ไม่ว่าเล่นเกมส์ บาคาร่า สล๊อต รูเล็ต ก็สามารถเลือกใช้ได้ ไม่แปลกหรอกที่จะไม่รู้ เพราะแม้แต่นักการเงินที่มีความรู้ ก็อาจไม่รู้ข้อเท็จจริงทั้งห้าข้อ ที่เกี่ยวกับเครือข่ายการชำระเงินขนาดใหญ่อย่าง mastercard

ความจริง 5 ข้อเกี่ยวกับ mastercard

  1. ชื่อแรกคือ Master Charge
    ในปี 1966 กลุ่มธนาคารแคลิฟอร์เนียรวมถึง Wells Fargo, United California Bank, Crocker National Bank และธนาคารแห่งแคลิฟอร์เนียก่อตั้งสมาคมบัตรระหว่างธนาคาร (ICA) และเปิดตัว Master Charge: The Interbank Card ในปี 1969 และอีกสิบปีให้หลัง ปี 1979 ถึงมีการเปลี่ยนชื่อเป็น mastercard อย่างเป็นทางการ ส่วนสาเหตุคงเป็นเพียงแค่อยากให้ชื่อกระชับขึ้น ไม่ใช่ตัวชื่อที่ดูเป็นมาสเตอร์แห่งการชาร์จแต่อย่างใด
  2. จัดตั้งพันธมิตรระหว่างประเทศก่อนใคร
    ในปี 1968, ICA และ Eurocard ร่วมกันจัดตั้งพันธมิตรเพื่อการบริการเครือข่ายการชำระเงินทั้งในยุโรปและอเมริกา ซึ่ง Eurocard ได้ทำการยอมรับเครือข่าย ICA เพื่อให้ Master Charge เป็นที่ยอมรับในเครือข่ายของ Eurocard ในปี 1972 บัตร British Access ของ สห ราชอาณาจักรได้เข้าร่วมทำให้การเข้าถึงบัตรได้อย่างมีประสิทธิภาพทั่วทั้งยุโรปและอเมริกาเหนือ
    ในปี 1992 mastercard และยูโรการ์ดได้เปิดตัวกิจการร่วมค้า Maestro International mastercard และยูโรการ์ดเข้ามาอยู่รวมกันภายใต้ชื่อมาสเตอร์การ์ด
  3. การเข้าตลาดหุ้น IPO ของ mastercard ช่างน่าทึ่ง
    mastercard ได้รับการจัดให้เป็นสหกรณ์ธนาคารได้เผยแพร่สู่สาธารณะหรือเข้าสู่ตลาดหุ้นด้วยราคา IPO ที่ 39 ดอลลาร์ ต่อมามีการพิจารณาการแตกหุ้น 10 ต่อ 1 นั่นหมายความว่าราคาหุ้นของ mastercard คือ เพิ่มสูงขึ้นกว่า 2,000% นับตั้งแต่เปิดเผยต่อสาธารณชนเมื่อสิบกว่าปีก่อน
  4. ถูกฟ้องร้องในกฎหมายต่อต้านการผูกขาด
    mastercard อาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดีด้านการต่อต้านการผูกขาดการค้า เพราะผู้ประกอบการเอทีเอ็มอ้างว่า mastercard คือ กดดันบริษัทต่าง ๆ กำหนดค่าธรรมเนียมการเข้าถึงเอทีเอ็มที่มากเกินไป เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาศาลฎีกากำลังพิจารณาตัดสินการร้องขอให้ยกฟ้องโดย mastercard ในปี 2012 ศาลของรัฐบาลกลางอนุมัติให้มีการยุติการฟ้องร้องจำนวน 5.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อคดีฟ้องร้องมาสเตอร์การ์ดที่ยื่นฟ้องโดยผู้ค้าปลีกหลายราย การฟ้องร้องดำเนินคดีกล่าวหาว่า บริษัท บัตรเครดิตมีส่วนร่วมในการกำหนดค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ค้าปลีกเพื่อเจรจาธุรกรรมบัตรเครดิต แม้อย่างนั้น ผู้ค้าหลายคนยังไม่พอใจกับข้อตกลงและได้ยื่นอุธรต่อไป กรณีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ในประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกมาสเตอร์การ์ดต้องเผชิญกับการฟ้องร้องหลายคดีที่คล้ายกัน
  5. ความลับเกี่ยวกับรายได้
    mastercard ทำเงินทุกครั้งที่ผู้บริโภคใช้เครือข่ายเพื่อทำการซื้อ สำหรับทุกธุรกรรม บริษัท จะได้รับค่าธรรมเนียมการดำเนินการธุรกรรมและค่าธรรมเนียมการประเมินภายในประเทศหรือค่าธรรมเนียมการข้ามพรมแดนขึ้นอยู่กับว่าธุรกรรมนั้นมีการเจรจาในประเทศต้นทางของธนาคารผู้ออกหรือไม่ ช่องทางรายได้เหล่านี้เป็นตัวเลขมากกว่า 80% ของรายได้ของ mastercard คือ โดยรวม รายได้ส่วนที่เหลือของมาสเตอร์การ์ดมาจากสิ่งที่ บริษัท เรียกว่า ” รายรับอื่น ๆ ” ซึ่งรายงายอย่างไม่สม่ำเสมอในการนำเสนอผลประกอบการรายไตรมาส หมวดหมู่รายได้นี้แสดงถึงบริการและผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่ mastercard เสนอให้กับธนาคารผู้ออกบัตรซึ่งรวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลการจัดการความภักดีและรางวัลโปรแกรมบริการป้องกันการฉ้อโกงและการให้คำปรึกษาและการวิจัย บริการเบ็ดเตล็ดนี้เป็นหมวดหมู่รายได้ที่เติบโตเร็วที่สุดของมาสเตอร์การ์ด ไตรมาสที่ผ่านมาเพียงอย่างเดียวหมวดหมู่คิดเป็น $ 724,000,000 ในรายได้เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

คาสิโน

คะแนน

ฟรีสปิน

โบนัสคาสิโน

เพิ่มเติม

16

0

ฟรี สปิน

250

โบนัส

17

0

ฟรี สปิน

250

โบนัส

18

0

ฟรี สปิน

250

โบนัส

19

0

ฟรี สปิน

250

โบนัส

20

0

ฟรี สปิน

250

โบนัส

21

0

ฟรี สปิน

250

โบนัส

bacc6666
22

0

ฟรี สปิน

250

โบนัส

ufabetsr
23

0

ฟรี สปิน

250

โบนัส

ufagoal168
24

0

ฟรี สปิน

250

โบนัส

ufastar 356
25

0

ฟรี สปิน

250

โบนัส

ufabetwins
26

0

ฟรี สปิน

250

โบนัส

ufabetgo
27

0

ฟรี สปิน

250

โบนัส

ufa877
28

0

ฟรี สปิน

250

โบนัส

siam-poker
29

0

ฟรี สปิน

250

โบนัส

siam-poker
30

0

ฟรี สปิน

250

โบนัส

gclub-casino
31

0

ฟรี สปิน

250

โบนัส

mastercard คือ ตัวอย่างการเรียนรู้ด้านการเติบโต

          เราสามารถเรียนรู้ได้มากมายจากการศึกษาอดีตของ บริษัทต่าง ๆ ในกรณีของ mastercard เราเรียนรู้ว่าการให้ความสำคัญกับการเติบโตระหว่างประเทศเริ่มต้นในช่วงต้นชีวิตของ mastercard คือ เมื่อแรกสร้างพันธมิตรกับ Eurocard และ Access ในปลายปี 1960 และต้นปี 1970; ความพยายามระดับโลกของ บริษัท ยังคงดำเนินต่อไปจนถึงทุกวันนี้ Ajay Banga CEO คนปัจจุบันที่มีความสามารถไม่เพียงแต่ได้รับการยกย่องในอินเดียเท่านั้นในระดับโลกก็เช่นกัน ตัวอย่างเช่น mastercard มีข้อตกลงกับรัฐบาลแอฟริกาหลายแห่งในการเชื่อมโยงบัตรประจำตัวที่ออกโดยรัฐบาลกับบริษัทกระเป๋าเงินมือถือระดับประเทศ ข้อเสนอล่าสุดอื่น ๆ ได้แก่ การเป็นพันธมิตรกับธนาคารแห่งไอร์แลนด์ แพลตฟอร์มโทรศัพท์มือถือสำหรับเครือจักรภพแห่งออสเตรเลียและธนาคารแห่งแรกของไนจีเรีย

บัตร mastercard มีระดับไหนบ้าง

mastercard นั้นมีระดับการ์ดอยู่ 5 ประเภท ซึ่งสิทธิประโยชน์นั้นมีความแตกต่างกันไปได้แก่

  • MasterCard Standard มีบริการเด่นที่เรียกว่า MasterCard Global Service บริการช่วยเหลือตลอด 24 ชม. 7 วันทำการ และเงินฉุกเฉินที่สามารถถอนได้อย่างรวดเร็ว
  • MasterCard Gold มีสิทธิประโยชน์ครบครัน ช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน เติมน้ำมัน เปลี่ยนยาง ช่วยเหลือกรณีอุบัติเหตุ เป็นต้น, มีผู้ช่วยเหลือระหว่างเดินทางในต่างประเทศ ติดต่อสถานทูตให้ในกรณีฉุกเฉิน บริการด้านการ แพทย์และทนายความ ที่สามารถพูดภาษาของคุณได้
  • MasterCard Platinum เด่นด้วย Purchase Assurance ประกันสินค้าที่คุณซื้อผ่านบัตร ในกรณีสูญหายหรือถูกขโมย ภายใน 90 วัน, ผู้ช่วยเหลือระหว่างเดินทาง และบริการผู้ช่วยทางด้านการเงินที่ช่วยจัดการการเงินของคุณ ทั้งการเตรียมการด้านภาษี และบริหารจัดการเงินของคุณ
  • MasterCard World จะมีสิทธิประโยชน์แบบพรีเมี่ยมมาก ๆ เช่นมีที่ปรึกษาการเดินทางส่วนบุคคล, มีการคุ้มครองความเสียหานการซื้อสินค้า 120 วัน และมีสิทธิประโยชน์ในโรงแรมเพิ่ม เช่น อาหารเช้าฟรี, เช็คเอาท์ช้าได้, และการอัพเกรดห้องพัก
  • MasterCard World Elite บัตรระดับสูงสุดของ mastercard คือ มาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ระดับไฮเอน บริการของ ร้านค้าระดับสูงหรือบริการเช่ารถในราคาสุดพิเศษ, บริการตั๋วเครื่องบินและการล่องเรือหรือแพคเกจท่องเที่ยวแบบจัดเต็ม


mastercard เป็นหนึ่งในสามเครือข่ายการจ่ายเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก แม้ไม่ใช่ที่หนึ่งแต่ก็ได้รับการยอมรับมานาน แม้ยังมีภัยคุกคามที่แทบจะเป็นเรื่องปกติของ mastercard คือ คดีฟ้องร้องจำนวนมากที่นำโดยผู้ค้าปลีกเรื่องค่าธรรมเนียมซึ่งอาจเป็นภัยคุกคามต่อ บริษัท และควรเป็นสิ่งที่ผู้ถือหุ้นทุกรายต้องจับตามอง ที่สำคัญที่สุดคือเราสามารถเรียนรู้ว่า mastercard ยักษ์ใหญ่ด้านเครดิตแห่งนี้กำลังสร้างบริการพิเศษอย่างเงียบ ๆ บริการเหล่านี้ไม่เพียงเพิ่มยอดขายอย่างรวดเร็ว แต่ยังทำให้ลูกค้าของมาสเตอร์การ์ดเชื่อมั่นใน mastercard มากขึ้นทำให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินยากขึ้นที่จะตัดความสัมพันธ์กับเครือข่ายการชำระเงินที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้