- สมาชิกใหม่รับโบนัสฟรี 100%
- มีเกมครบทุกค่าย ให้เลือกมากมาย
- ทีมงานคอยบริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง
Menu
อีกหนึ่งรูปแบบการเล่นเกมไพ่ที่ให้อรรถรสไม่แพ้กับเกมไพ่ลุ้นง่าย ๆ อย่าง บาคาร่า หรือ ป๊อกเด้ง ก็คือ การเล่น แบล็คแจ็ค ซึ่งมีวิธีในการเล่นใกล้เคียงกับไพ่ที่กล่าวมาทั้ง 2 แบบ เพราใช้วิธีการเล่นรูปแบบเดียวกัน ต่างกันที่การนับแต้ม ดังนั้นเพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบการเล่น บาคาร่า หรือ ป๊อกเด้ง น่าจะถูกอกถูกใจการเล่น แบล็คแจ็ค ได้ไม่ยากเลยซึ่งในบทความวันนี้ เราจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับวิธีการเล่นไพ่ แบล็คแจ็ค แบบดั้งเดิมกันว่ามีความแตกต่างจากการเล่น แบล็คแจ็คออนไลน์ หรือไม่อย่างไร
แบล็คแจ็ค คือ เกมไพ่ชนิดที่มีการนำเลขบนไพ่มารวมกัน ให้ได้เลขที่ใกล้เคียงกับเลข 21 มากที่สุด และจะต้องไม่เกิน 21 แต้มอีกด้วย มีลักษณะการเล่นคล้าย ๆ กับไพ่ป๊อก เพียงแต่ต่างกันที่การนับแต้มเท่านั้น ไพ่ A มีค่าเท่ากับ 1 หรือ 11 แต้มก็ได้ ไพ่รูปภาพ J, Q, K มีค่าเท่ากับ 10 แต้ม และไพ่อื่น ๆ ที่มีตัวเลขหน้าไพ่ จะมีค่าเท่ากับแต้มหน้าไพ่นั้น ๆ คือ 10, 9, 8, 7, 6, 5, 4, 3, และ 2 ตามลำดับ
ซึ่งผลรวมของไพ่ A และไพ่ที่มี 10 แต้ม ซึ่งเป็นการได้ไพ่จำนวน 2 ใบแรก โดยไม่ได้จั่ว เราจะเรียกว่า “แบล็คแจ็ค” คือมีแต้มเท่ากับ 21 แต้มนั่นเอง เมื่อชนะจะได้เงินรางวัลเป็น 1.5 เท่าของเงินเดิมพัน ซึ่งถ้าหากไพ่ในมือผู้เล่น ได้แต้มไพ่ใกล้เคียงกับ 21 มากกว่า เจ้ามือ ผู้เล่นจะเป็นฝ่ายชนะ แต่ถ้าผู้เล่นและเจ้ามือได้ไพ่แต้มเท่ากันตั้งแต่ 17-21 จะไม่มีฝ่ายใดชนะ หรือ จะเรียกว่า Push แล้วจะคืนเงินเดิมพันให้ เว้นเสียแต่ว่า ผู้เล่นได้ แบล็คแจ็ค แต่เมื่อดีลเลอร์จั่วไพ่แล้วได้ 21 แต้มในภายหลัง ผู้เล่นที่ได้แบล็คแจ็คก็จะถือว่าชนะเช่นเดิม และได้เงินรางวัลอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าการได้แต้มเป็น 21 แต้มจากการแจก 2 ใบแรกจะถือว่าเป็นการจบเกมในทันที ไม่ต่างจากการเล่นไพ่ป๊อกซึ่งเมื่อได้ ป๊อก 8 หรือ ป๊อก 9 แล้วก็จะถือว่าชนะเช่นกัน จึงเป็นที่มาของคำว่า ป๊อก 21 ที่คนไทยเราเรียกกัน
การแจกไพ่สำหรับเล่น แบล็คแจ็คใน คาสิโนออนไลน์ มากจะใช้ไพ่เป็นขอนคล้ายกับบาคาร่า โดยจะมีไพ่อยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 สำรับ แต่ละสำรับก็จะประกอบไปด้วยไพ่ 52 ใบ ซึ่งเมื่อนำมาเล่นแล้ว โอกาสที่ไพ่จะออกมาเป็นหน้าต่าง ๆ นั้น ทำให้เราไม่สามารถคาดเดาได้เลย
สำหรับการเล่น แบล็คแจ็คออนไลน์ จะมีกฎพิเศษเพิ่มเติม คือ กฎการแยกไพ่ ซึ่งจะสามารถใช้ได้กับไพ่สองใบแรก ที่เป็น A, A หรือ 8, 8 เท่านั้น ที่จะสามารถแยกไพ่ได้ออกเป็น 2 ขา และจะมีการเรียกเงินเดิมพันจากกระเป๋าของผู้เล่นโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้สำหรับคู่ไพ่ A, A จะสามารถจั่วไพ่เพิ่มได้อีกขาละ 1 ใบ แต่ถ้าเป็นคู่ไพ่ 8, 8 ทั้งสองขาจะสามารถเรียกไพ่ได้เพิ่มไม่จำกัดจำนวน จนกว่าจะใกล้เคียงแต้ม 21 ที่สุด สำหรับกติการในการเล่นนั้น มีดังนี้
ในปัจจุบันการเล่น แบล็คแจ็คออนไลน์ มีการพัฒนาไปในหลายรูปแบบ ทั้งที่เป็นในลักษณะเหมือนเกม มีภาพกราฟฟิกสวยงาม น่ารัก หรือ การเล่นกับคาสิโนออนไลน์ที่เปิดให้สามารถวางเดิมพันได้ ดังนั้น เพื่อประโยชน์ของเพื่อน ๆ เราจึงอยากจะอธิบายคำศัพท์สำหรับการเล่น แบล็คแจ็คออนไลน์ เพื่อจะได้เข้าใจการใช้คำศัพท์เหล่านี้ในการเล่นผ่านระบบออนไลน์รูปแบบต่าง ๆ
Split “การแยกไพ่” กรณีได้ไพ่ 2 ใบแรกเป็นไพ่คู่ A, A หรือ 8, 8 เจ้ามือจะถามว่าต้องการแยกไพ่หรือไม่ ถ้าแยกก็จะต้องเพิ่มเงินเดิมพัน และเล่น 2 ชุดไปพร้อม ๆ กันด้วย ก็จะทำให้มีโอกาสในการชนะมากขึ้น
Insurance “เดิมพันประกัน” เมื่อเจ้าเมื่อเปิดไพ่ใบแรกมาเป็น A เราจะสามารถเลือกเดิมพันไพ่ประกันได้ โดยจะสามารถเดิมพันได้แค่ 50% ของเงินเดิมพันก่อนหน้า ถ้าเกิดเจ้ามือเปิดไพ่ใบที่ 2 แล้วได้ แบล็คแจ็ค เราจะชนะและได้เงินรางวัล 2 : 1 หากไพ่เจ้ามือไม่ออก แบล็คแจ็ค เราก็จะเสียเงินประกันทันที
ถึงแม้ว่าการเล่น แบล็คแจ็ค จะมีความคล้ายคลึงกับการเล่นไพ่ป๊อกก็ตาม แต่ยังมีในส่วนของกติกาบางข้อ ที่เอื้อให้ผู้เล่นสามารถจะเอาชนะเกม แบล็คแจ็คออนไลน์ ได้ไม่ยากเกินไป สำหรับเทคนิคที่มีการนำไปใช้กันบ่อย ๆ สำรับการเล่น แบล็คแจ็ค เพื่อให้ชนะได้ง่ายขึ้นนั้น มีดังนี้
การเล่นไพ่ แบล็คแจ็ค นั้นมีกติกาที่ค่อนข้างง่าย มีโอกาสในการจั่วไพ่ได้หลายครั้ง เพื่อทำให้ได้แต้มใกล้เคียง 21 มากที่สุด ถึงแม้ว่า แบล็คแจ็คออนไลน์ จะมีรูปแบบในการวางเดิมพันไม่หลากหลายเท่าเกมไพ่แบบอื่น ๆ แต่ก็ถือว่ามีโอกาสชนะได้ไม่ยากเลย
