รวม 5 แอปกระเป๋าตัง e-wallet เตรียมรับสังคมไร้เงินสด

e-wallet

          มีคำถามที่น่าสงสัยอยู่หลายคำถามว่าประเทศเราจะเป็นสังคมไร้เงินสดได้หรือ ทุกคนจะมีเครื่องมือพอที่จะโหลดเงินไปไว้ในแอป e-wallet ต่าง ๆ ได้รึเปล่า บางคนแค่เติมเงินโทรศัพท์ยังลำบากเลย ความจริงก็ต้องตอบว่าตอนนี้บางคนก็ทำการใช้ e-wallet คือ ไปแล้วโดยไม่รู้ตัว นั่นคือแอพพลิเคชั่นของธนาคารต่าง ๆ บนมือถือเรานั่นเอง เราแทบจะใช้มันแทนกระเปาตังอยู่แล้วโดยเฉพาะเมื่อโอนเท่าไหร่ก็ได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม เมื่อรู้แบบนี้แล้วลองมาดูพวกแอพฯ e-wallet จริง ๆ ดูบ้างว่าสะดวกหรือไม่สะดวกกว่าแอบธนาคารอย่างไร

e-wallet คืออะไร

          e-wallet คือบริการกระเป๋าเงินอิเล็คโทรนิคที่ผู้ครอบครอง e-wallet สามารถซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์ หรือจ่ายบิลต่าง ๆ ได้โดยการใช้แอพพลิเคชั่นของผู้ให้บริการ ผู้ใช้เพียงเติมเงินเข้าไปไว้ใน e-wallet คือ คล้าย ๆ กับการเอาเงินไปเก็บไว้ในประเป๋าใบหนึ่งแยกเอาไว้เพื่อเตรียมใช้ตามแผนของเรา เมื่อเติมเงินมาไว้ใน e-wallet แล้ว ผู้ใช้ก็สามารถใช้จ่ายผ่านธรกรรมอิเล็คโทรนิคได้ทันที ถามว่าแล้วอย่างนี้แตกต่างกันอย่างไรกับการใช้แอพฯธนาคารในการโอนเงินจ่ายค่าสินค้า ถึงจะคล้ายแต่ไม่ใช่สักทีเดียวเพราะแอพฯธนาคารนั้นจะผูกกับบัญชีธนาคาร การใช้จ่ายกับสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ยังไม่ครอบคลุมนัก และการใช้แอพฯที่ผูกกับบัญชีธนาคารโดยตรงอาจะเกิดปัญหาถูกแฮ็คหรือถูกแทรกแซงจากสิ่งต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ที่พร้อมจะเข้ามาขโมยเงินในบัญชีเรา แต่ e-wallet ถ้าหากมีความเสียหายเกิดขึ้น ความเสียหายจะถูกจำกัดวงอยู่แค่จำนวนเงินที่เราเติมไว้เท่านั้น ไม่ว่าจะเล่นเกม บาคาร่า สล๊อต รูเล็ต ก็สามารถเลือกใช้ได้

คาสิโน

คะแนน

ฟรีสปิน

โบนัสคาสิโน

เพิ่มเติม

e-wallet มีอะไรบ้าง

e-wallet ในบ้านเรามีหลากหลายแบรนด์ดังทั้งที่เริ่มเข้ามาทำตลาด และเป็นเจ้าของตลาดอยู่นานแล้ว มาดูกันว่ามีเจ้าไหนบ้างที่น่าสนใจ

  1. Rabbit Line Pay
    เป็นการรวมตัวกันของแอพพลิเคชั่น ชื่อดังอย่างไลน์ ที่รวมตัวกับบัตรแร็บบิต e-wallet คือ เพื่อผูกบัญชีให้กับลูกค้าที่ใช้แอพพลิเคชั่นไลน์ให้สามารถฝากเงินไว้กับแอพฯไลน์ได้ทันที และสามารถซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ผ่านไลน์ได้ทันที โดยสามารถเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินออนไลน์ได้ทางบัญชีธนาคารและตู้เอทีเอ็ม หรือจะผูกเข้ากับบัตรเดบิตและบัตรเครดิตก็ได้เช่นกัน โดย Rabbit LINE Pay สามารถสแกนผ่าน QR code หรือ Barcode เพื่อโอนเงิน เรียกเก็บเงิน จ่ายค่าบริการ นอกจากนี้ยังใช้ซื้อสินค้าทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ได้ด้วย นอกจากนี้ Rabbit Line Pay ยังได้เปิดบริการให้ลิงค์บัตรรถไฟฟ้า BTS เข้ากับ Rabbit Line Pay ได้ จึงไม่จำเป็นต้องมาแลกเหรียญ เข้าแถวหยอดเหรียญที่สถานีให้เสียเวลา
  2. Samsung Pay
    เป็นนวัตกรรมการจ่ายเงินโดยเพิ่มบัตรเครดิตของเราลงไปในสมาร์ทโฟน ซึ่ง Samsung Pay มีการใช้งานกับร้านค้าค่อนข้างครอบคลุมและหลากหลาย เพียงพกมือถือเครื่องเดียวก็จ่ายได้สบายทุกที่ทุกเวลา โดยซัมซุงได้ใช้เทคโนโลยี Tokenization ซึ่งเป็นระบบรักษาความปลอดภัยทางการเงิน โดยแปลงบัญชีข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็น token แล้วจึงค่อยนำ token ไปใช้ในการชำระเงินแทนเงินจากบัญชีโดยตรง และหมายเลยบัตรเครดิตของเราจะถูกแทนด้วย Device Card Number อีกทั้งยังมีการตรวจสอบและยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับ Samsung Pay มากขึ้นอีกด้วย
  3. TrueMoney Wallet / WeCard
    WeCard เป็นแอพพลิเคชั่นที่อยู่ใน True Money Wallet ที่สามารถใช้ช้อปกับร้านค้าทั่วไปที่รับบัตร MasterCard และช้อปออนไลน์ได้โดยไม่ต้องง้อบัตรเครดิตเลย มีทั้งบัตรจริงๆและบัตรเสมือนในแอพพลิเคชั่น ซึ่งจะต้องมีการเติมเงินเข้าบัตรก่อนจึงจะใช้ได้ วิธีง่าย ๆ คือเติมด้วยเงินสดได้ทาง 7-Eleven และอีกทางคือ ตู้ ATM หรือ iBanking ของทุกธนาคาร ส่วนอีกวิธี คือ การผูกบัตร TrueMoney WeCard บน Play store หรือ App store ซึ่งต้องเลือกช่องทางการจ่ายเงินด้วย MasterCard แล้วกรอกเลขบัตรของเราลงไป เพียงเท่านี้ก็ใช้ WeCard ช้อปให้กระจายได้แล้ว TrueMoney Wallet หรือ WeCard ใช้บาร์โค้ดในการ จ่ายบิล ซื้อบัตรเงินสด โอนเงิน ช้อปสินค้าออนไลน์ ซื้ออาหาร หรือจองบัตรคอนเสิร์ตได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถใช้ซื้อตั๋วเครื่องบิน ตั๋วรถทัวร์ หรือ ตั๋วหนังได้ทุกที่ทุกเวลาอีกด้วย
  4. mPay
    เป็น e-wallet ที่รับ, โอนและจ่ายเงิน โดยจะโอนเงินจาก mPay ไปที่บัญชีพร้อมเพย์ด้วยการใช้หมายเลขบัตรประชาชน โดยฟรีค่าธรรมเนียมเมื่อโอนไม่เกิน 5,000 บาท ส่วนการชำระเงินค่าสินค้าและบริการตามร้านค้าต่าง ๆ ก็จะใช้การสแกน QR โค้ด และหากต้องรับเงินจากเพื่อน ๆ ก็ใช้ E-wallet ID ในการดำเนินการ
  5. WePay
    เป็นผู้ให้บริการชำระค่าใบแจ้งหนี้ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่า พ.ร.บ เป็นต้น เติมเงินมือถือ เติมเงินเกมออนไลน์และจำหน่ายบัตรเงินสด โดยจุดเด่นของ WePay คือจะมีส่วนลดให้กับสมาชิกทันทีที่ใช้บริการ นอกจากนี้ หลังจากที่ทำการชำระค่าใบแจ้งหนี้เรียบร้อยแล้ว จะมีการจัดส่งใบเสร็จรับเงินตัวจริงไปให้ถึงบ้านด้วย สำหรับการเติมเงินเข้าสู่ WePay นั้น ทำได้ที่ตู้เอทีเอ็ม, iBanking และ 7-Eleven ทุกสาขา ไม่เพียงเท่านี้ WePay ยังได้เพิ่มความปลอดภัยระดับสูงให้กับเราด้วยการให้ยืนยันตัวตนด้วยระบบ OTP (One-time-password) ทาง SMS จึงสามารถทำธุรกรรมทางการเงินทุก ๆ รายการได้อย่างมั่นใจหายห่วง WePay ยังเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยยกจุดรับชำระมาให้บริการถึงที่บนเว็บไซต์ สะดวก รวดเร็ว และประหยัดเวลาลงได้อีกเยอะ

 

ข้อดีข้อเสีย e-wallet คือ

แน่นอนว่าข้อดีข้อเสียเป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องใช้ในการตัดสินใจว่าจะใช้งานบริการ e-wallet หรือไม่ ดังนั้นมาพิจารณากันว่า e-wallet คือ มีข้อดีข้อเสียอย่างไร

ข้อดี

          นึกถึงการไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมาก ไม่ต้องมีกระเป๋าเงิน เพียงแค่โทรศัพท์เครื่องเดียวก็ไปได้ทุกที่ ใช้จ่ายได้ตลอด จ่ายค่าน้ำค่าไฟในตอนที่คุณกำลังอยู่ต่างประเทศก็ได้ หรือจะโอนเงินให้คนที่รักก็เป็นเรื่องง่ายดายทำได้ทุกที ความสะดวกสบายจึงเป็นข้อดีของการมี e-wallet และไม่ต้องห่วงเรื่องอุบัติเหตุเวลาทำโทรศัพท์หาย เพราะข้อมูลของ e-wallet ถูกจัดเก็บอยู่ที่อื่น เมื่อมีโทรศัพม์ใหม่ก็เปิดใช้ e-wallet ได้ทันทีโดยเงินไม่หายไปสักบาทเดียว

ข้อเสีย

          เมื่อนันเป็นธุรกรรมการเงินทางอีเล็กโทรนิค มันจึงมีช่องว่างเสมอที่แฮ็คเกอร์ต่าง ๆ จะหาทางเจาะเข้ามาในระบบของเรา มันจึงเป็นหน้าที่ของเราเองที่จะพยายามอุดช่องโหว่ต่าง ๆ เหล่านั้น ด้วยการศึกษาเครื่องมือความปลอดภัยต่าง ๆ ที่ให้ ทั้งการตั้งรหัสที่ปลอดภัย หรือการไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับพวกดาร์กเว็บต่าง ๆ ข้อเสียอีกอย่างของ e-wallet คือความสะดวกสบายที่มากเกินไปอาจจะทำให้การระแวดระวังในการใช้จ่ายลดลง หรือเรียกง่าย ๆ ว่าช็อปเพลินจนเกินงบ

การพัฒนาในอนาคตของ e-wallet

          ในอนาคต e-wallet อาจจะไม่ได้อยู่ในโทรศัพท์มือถืออีกต่อไปแล้ว แม้ในประเทศเราจะเพิ่งเริ่มต้นมาไม่กี่ปี แต่ในต่างประเทศมีการพัฒนา e-wallet คือ ไปในทางที่ไม่ต้องมีทั้งตัวบัตรหรือสมาร์ทโฟน แต่ใช่การจำใบหน้า แสกนม่านตา ลายนิ้วมือหรือแม้แต่การฝังชิพบัตรเครดิตไว้ในร่างกาย นั่นเป็นเรื่องของอนาคตที่จะมาถึงไม่ช้าก็เร็ว แต่มาถึงแน่อน่ สิ่งเหล่านี้กำลังบอกว่าการใช้เงินสดจะหมดไป จึงเป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องเตรียมตัว

ไม่ว่าตอนนี้คุณจะมี e-wallet ใช้งานอยู่หรือไม่ แต่โลกทั้งโลกได้โยนทุกอย่างเข้าไปไว้ในออนไลน์แทบจะหมดแล้ว แม้แต่เงินในกระเป๋าของคุณก็จะไม่มีเป็นธนบัตรหรือเหรียญให้เห็นอีกแล้ว การใช้จ่ายต่าง ๆ จะรวดเร็วมากขึ้นจนคุณไม่อาจรั้งกระแสของอนาคตได้ สิ่งที่ทำได้คือการเตรียมให้พร้อม e-wallet คือ อาจเป็นก้าวแรกให้คุณนึกถึงและลองพยายามก้าวเข้าสู่โลกใบใหม่ ด้วยการทำงานที่มายากเกินไปนัก คุณควรมี e-wallet ไว้ใช้งานอย่างน้อยหนึ่งอย่าง แล้วคุณจะพบว่าความสะดวกสบายนั้นอาจจะจำเป็นกับชีวิตอย่างนึกไม่ถึงมาก่อน