จากวีรบุรุษ สู่ตัวตลกในสายตาคนรอบข้าง จากกองหน้าสังหาร สู่ กุนซือลูกอม ขนมขบเคี้ยว เป็นความผิดของใคร ที่ทำให้ทีมที่ยิ่งใหญ่อย่าง แมนยู ด่ำดิ่งสู่ความล้มเหลว ข่าวแมนยู ที่ออกมาแต่ละครั้ง มีทั้งความสำเร็จสลับไปมากับความผิดหวัง มีทั้งเสียงหัวเราะแห่งความสำเร็จ เคล้าไปด้วย เสียงหัวเราะสุดเย้ยหยันจากทีมรอบข้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2019-2020 คู่รักคู่แค้นอย่างลิเวอร์พูลกำลังจะเถลิงถวัลย์บัลลังค์แชมป์พรีเมียร์ ลีค อังกฤษ บวกกับความสำเร็จที่เปลี่ยนแมนเชสเตอร์ที่เต็มไปด้วยสีแดง กลายเป็นสีฟ้าไปทั่วเมือง สร้างความร้าวรานภายในจิตใจพลพรรคอสูรแดงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แมนยู ที่ยิ่งใหญ่จะกลับมาได้เมื่อไหร่ โรงละครแห่งความฝัน จะกลายเป็นบ้านแห่งอสูรที่จะกลับมาหลอกหลอนกองเชียร์และทีมคู่แข่งฝั่งตรงข้ามได้อีกหรือไม่ เพราะทุกวันนี้ มันกลายเป็นบ้านผีหลอก หลอกกองเชียร์ตัวเองอยู่ร่ำไป ครึ่งแรกมีผลนำให้ตายใจ สุดท้ายพลิกกลับมาแพ้เฉยก็หลายที เห็น ข่าวแมนยู แต่ละที กูจะถูกเพื่อนล้อไหมวะ เกิดอะไรกับอสูรแดงที่แปรเปลี่ยนไปเป็นผีน้อยน่ารักไปได้
แมนยู จากโรงละครแห่งความฝันสู่โรงละครแห่งความหลัง
จากห้วงเวลาอันยิ่งใหญ่ที่สร้างสถิติและเรื่องราวอันเป็นตำนานของทีม ดาย ฮาร์ต ตายยาก ที่ไม่ว่าผลสกอร์ระหว่างการแข่งขันจะเป็นอย่างไร แต่พลพรรคอสูรแดงแมนยู ก็พร้อมกลับมาสู่ชัยชนะและความยิ่งใหญ่ได้ทุกขณะ ด้วยการนำของบรมกุนซือระดับตำนาน เซอร์ อล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่สร้างสมบารมีให้ แมนยู จากทีมลุ้นตกชั้นในปี 1991 มาสู่ ทีมลุ่นทุกแชมป์นับเป็นเวลาเกือบ 20 ปี ความยิ่งใหญ่ ความสำเร็จต่าง ๆ ที่ ข่าวแมนยู ออกมาอย่างมากมาย ชนิดที่ว่า สำลักความสำเร็จ สร้างความอิจฉาให้คู่แข่งตัวเอ้อย่าง หงส์แดง ที่ยังมีภาวะเป็ดแดง รวมไปถึงเพื่อนบ้านสีฟ้าอย่าง แมนซิตี้ ที่เฝ้ามองความสำเร็จของผีแดง แมนยู อย่างไม่วางตา
จากความฝันอันแสนหวาน สู่ความหลังอันห่างไกล เมื่อป๋าเฟอร์กี้ ตัดสินใจ ลงหลังเสือจากการกุมบังเหียน แมนยู ข่าวแมนยู ต่างวิเคราะห์ถึงผู้มาใหม่ว่าจะทำหน้าที่ได้เดดวงประดุจป๋าเฟอร์กี้หรือไม่ แต่ทุกคนที่เข้ามา ต่างทำให้โรงละครแห่งความฝัน กลายเป็นโรงละครแห่งหลัง เฝ้าฝันว่าเมื่อไหร่ความฝันอันแสนหวานของ แมนยู จะกลับคืนสู่ โอลด์ แทรฟฟอร์ต ไม่มีใครอาจรู้ได้
ข่าวแมนยู เรื่องต้นสู่ยุคฝันร้ายแห่งโอลด์ แทรฟฟอร์ต
หลังแชมป์อันยิ่งใหญ่ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันในปี 2012- 2013 ฟอร์มการเล่นของทีมปีศาจแดงค่อย ๆ สาละวันเตี้ยลง จนใกล้ชิดกับคำว่า ว่าว และห่างไกลกับคำว่า แชมป์ ทายาทอสูรคนแรกที่ข่าวมาสู่รั้ว โอลด์ แทรฟฟอร์ด คือ เดวิด มอยส์ จอมคนแห่งสก็อต บ้านเดียวกันกับป๋าเฟอร์กี้ แม้จะได้รับการการันตีให้เป็นสุดยอดกุนซือมหัศจรรย์แห่งกูดิสัน ปาร์ค แต่เรื่องราวของมอยด์ กับ แมนยู เปรียบประดุจปลาผิดน้ำ เพราะมอยด์ได้เป็นผู้เริ่มต้นพา แมนยู ออกสู่ทะเล ข่าวแมนยู ในแต่ละวัน ทำเอาสาวกที่เผลอนอนตอนแข่ง ต้องลุ้นระทึกว่า ผลการแข่งขันจะเป็นไปตามที่หวังไว้หรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่ มันเป็นแบบที่หวัง คือ ผิดหวังแน่ ๆ และผิดหวังจริง ๆ ด้วยฟอร์มการเล่นประหนึ่งหาทางไปไม่เจอ ทั้ง ๆ ที่ ผู้เล่นที่มอยด์ดูแลนั้น คือผู้เล่นชุดเดียวกันกับที่ป๋าเฟอร์กี้ดูแล
ข่าวแมนยู ของกุนซือมหัศจรรย์ กลายมาเป็น กุนซือที่ถูกเมาท์มอยจนมันส์ ปี๊บถูกขายออกให้เหล่าสาวก แมนยู แทบไม่ทัน วันเวลาแห่งความหอมหวานระหว่าง มอยด์ และ สาวกผีแดง มีเพียงแค่สิบเดือน เดวิด มอยด์ก็ถูกปลดจากการเป็นกุนซือ แมนยู เป็น ข่าวแมนยู ที่สร้างความยินดีเป็นอย่างมากแก่กองเชียร์ ซึ่งระหว่างนั้น ปีกตัวจี๊ด ไรอัน กิ๊กส์ เข้ามาขัดตาทัพกันชั่วคราว โดยมีความหมายมั่นปั้นมือว่า กิ๊กส์จะเข้ามาเป็นผู้กอบกู้คนต่อไป แต่น่าเสียดายที่ กิ๊กส์ ได้มาเป็นแค่ ดอกไม้ริมทางเท่านั้น โดยผู้กอบกู้คนใหม่ ที่สร้างความหวังให้เหล่าสาวก แมนยู คือ หลุยส์ ฟาน กัล ที่สร้าง ข่าวแมนยู ให้โหมกระพืออีกครั้ง
แมนยู ฝันร้ายอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การดูแลของ หลุยส์ ฟาน กัล
ฟาน กัล อัศวินสีส้มผู้กอบกู้ ผู้เคยสร้างความยิ่งใหญ่แห่งถิ่นคัมป์นู แฟน ๆ แมนยู ต่างหวังว่าหลังจากนี้ ข่าวแมนยู จะออกมาประหนึ่งดอกไม้ได้ฝนใหม่ ที่ไหนได้ ฟอร์มผีแดงยามอยู่ในกุมบังเกียนของ ฟาน กัลป์ ประดุจ ดอกไม้เมายาฆ่าหญ้า ฟอร์มการเล่นของ แมนยู ยังคงหาท่าเรือไม่เจอ อ่าวอยู่ทางไหนยังเขาไม่ถูก มุ่งหน้าออกทะเลเสมอ นักเตะในทีมไม่ได้ศรัทธาใน ฟานกัลป์ จากวีรบุรุษในตำนาน ต้องมาตกม้าตายกลายเป็นตัวตลก ณ โรงละครแห่งความหลัง ข่าวแมนยู ที่ออกมาแต่ละครั้ง ยังความเศร้าสลดอยู่เสมอ แม้ผลงานของ ฟานกัลป์ ไม่ขี้เหร่นัก แต่ผลรางวัลที่ชาว แมนยู เฝ้าฝันไว้คือ ถ้วยพรีเมียร์ ลีค อังกฤษ และการกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง
-
แทนที่ป๋าไม่ไหว
กับเวลาหนึ่งฤดูกาลเศษที่ชาว แมนยู หลง ๆ ลืม ๆ ไปกับเทคนิคการเล่นของฟานกัลป์ อีกทั้ง ข่าวแมนยู แพลมออกมาว่า ฟานกัลเข้าไม่ได้กับลูกทีม จึงเกิดภาวะ ผลงานดี แต่ไม่มีที่ยืน จบฤดูกาลด้วยผลงานระดับบีบวก แต่ ฟานกัลป์ไม่สามารถยืนต่อไปได้ จึงถูกอัปเปหิออกไปจากโรงละครแห่งความฝัน ทิ้งไว้ให้เป็นโรงละครแห่งความหลัง ให้สาวกทุกคน เฝ้าฝันถึงโอกาสคว้าแชมป์ที่จะกลับคืนมาอีกครั้ง และใครกันเล่าจะเป็นผู้กอบกู้วิกฤตไร้แชมป์ของ แมนยู ในครั้งนี้
-
ข่าวแมนยู กับหนึ่งเดียวคนนี้ ลูกพี่ สเปลเชียลวัน โจเซ่ มูรินโญ
คงไม่มี ข่าวแมนยู ข่าวใดที่จะสั่นสะเทือนวงการได้ทำกับการจรดปากกาเซ็นต์สัญญาคุมทีม แมนยู ของ โจเซ่ มูรินโญ่ กุนซือนามอุโฆษ ผู้นำพาทีมฟุตบอลในลีคใหญ่ชั้นน้ำประสบความสำเร็จกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็น เชลซีแห่งอังกฤษที่มูรินโญ่พาเจ้าสิงห์โตน้ำเงินครามคว้าแชมป์ถึงสองครั้ง ในสองเทอมการทำงาน อินเตอร์ มิลานแห่งอิตาลี รีล มาริด แห่งสเปน มูรินโญ่ก็สามารถพาทุกทีมเถลิงถวัลย์บัลลังค์แชมป์ได้ และแน่นอน การมาของเดอะสเปเชียลวัน ทำให้แฟน แมนยู เฝ้าฝันเห็นพาดหัว ข่าวแมนยู ว่า ชนะ และแชมป์บ้าง จะได้หาโอกาสเลหลังปี๊บที่เอาคลุมหัวออกไป แต่ในท้ายที่สุด การมาของสเปเชียลวัน ประหนึ่งการมาของผี เฟรดดี้ ครูเกอร์ที่สร้างฝันร้ายใหม่ ๆ ให้กับสาวกผีแดง อยู่เรื่อย ๆ จนบรรดาอสูรน้อย ต่างไม่อยากแล ข่าวแมนยู บนหน้าจอออนไลน์เลย
-
บารมีลางเลือน จุดยืนไม่มี
รูปแบบการเล่นที่เปะปะ บวกกับมักสร้างปัญหากับคนอื่นอยู่เรื่อย ๆ พลังศรัทธาของมูรินโญ่แทบหมดสิ้น นักฟุตบอลไม่เห็นค่า แฟน ๆ ต่างเอือมระอา สุดท้าย มูรินโญ่ที่ไว้แต่เพียงฝันร้าย และความหลังที่บอบช้ำในยามที่เขามาคุม แมนยู
-
ข่าวแมนยู กับกุนซือแห่งความหวัง โอเล กุนนา โซลชาร์ อดีตเด็ก แมนยู
การประกาศแต่งตั้ง โซลชาร์เป็นกุนซือขัดตาทัพ สร้างขวัญกำลังใจให้กับสาวกผีแดงอย่างมาก แถมไม่พอ ฟอร์มตอนดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ยังสะเด็ดสะเด่า เหล่าสาวก แมนยู เฝ้าฝันถึงฤดูกาลใหม่ที่สวยงาม แต่ในท้ายที่สุด ความฝันอันแสนหวาน ยังคงเป็นความหลังอันแสนเศร้า เมื่อช่วงเวลาดื่มน้ำผึ้งประจันทร์หมดไป ฟอร์มของ แมนยู กลับมาดิ่งเหวอีกครั้ง ข่าวแมนยู เรียกพ่อค้าขายปี๊บมาอีกครา ซึ่งครั้งนี้ มันบาดลึกมหาศาลเพราะ อริร่วมชาติอย่าง ลิเวอร์พูล กำลังเถลิงถวัลย์สู่บัลลังค์แชมป์ ขณะที่ทีม แมนยู เป็นเพียงแค่ทีมชายกลางที่ห่างไกลความสำเร็จ
แมนยู จะเดินต่อไปทางใด เมื่อไหร่ที่ชาวอสูรแดง ได้อ่าน ข่าวแมนยู แล้ว เสนอหน้าได้อย่างสะใจอีกครั้ง เหมือนเมื่อครั้งป๋าเฟอร์กี้ยังคุมทีม แม้อาจได้รับคำปลอบใจจากแฟนหงส์ว่า 24 ปี ของข้าก็เป็นแบบนี้แหละ แต่ใครเล่ามันจะไปชื่นใจกับผลแบบนี้