การแข่งขันฟุตบอลในลีกดัง หรือ การแข่งขันฟุตบอลระดับโลกนั้น ทีมดัง ๆ ส่วนใหญ่จะพยายามเล่นอย่างเต็มที่ เพื่อให้ตัวเองคว้าชัยชนะ สะสมคะแนน หรือหลีกหนีการตกชั้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเหตุผลอะไรทำให้มีการบุกมากยิ่งขึ้น และนั่นทำให้เกมมีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ทำให้มีการปะทะกันหรือว่าการยิงประตูที่จับตามองไม่ทัน และทำให้เกิดปัญหาในการตัดสินอยู่หลายครั้ง เมื่อสายตาของกรรมการตัดสินในสนามไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า ลูกนี้ล้ำหน้าหรือไม่ ควรให้ใบแดง หรือ ใบเหลืองหรือไม่ จึงได้มีการใช้เทคโนโลยี goal line และ VAR เทคโนโลยีตัวช่วยการตัดสินในการแข่งขันฟุตบอล
เทคโนโลยี goal line และ VAR คืออะไร
เทคโนโลยี goal line เป็นการตรวจสอบว่าลูกบอลนั้น ข้ามผ่านเส้นผ่านประตูไปอย่างสมบูรณ์ทั้งใบแล้วหรือไม่ เมือลูกบอลผ่านประตูได้อย่างสมบูรณ์ ระบบนี้จะแจ้งเตือนไปยังผู้ตัดสินในสนาม เพื่อตัดสินประตูได้อย่างถูกต้อง เพราะฉะนั้นความกังขาเรื่องว่า ยิงเข้ากรอบเขตโทษไหม ฟุตบอลไปถึงเส้นหรือเปล่า แบบนี้ก็จะหมดไปเทคโนโลยี VAR คือ คือ การใช้ระบบภาพช้าเข้ามาช่วยตัดสิน โดยการใช้ระบบนี้จะใช้เมื่อต้องการดูจังหวะการได้ประตู จังหวะให้จุดโทษ จังหวะการให้ใบแดง หรือกรณีความเข้าใจผิดต่าง ๆ ของผู้เล่นหรือผู้รักษาประตู เป็นต้น
ทั้ง 2 เทคโนโลยีนี้ช่วยลดความกังขาเมื่อเวลาอยู่ในสนามไปได้มาก และช่วยตัดสินปัญหาในการเล่นบอลได้ ทำให้ทุกฝ่ายเกิดความพึงพอใจสูงสุดสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้วย เพราะเมื่อใช้ตัวนี้ตัดสินแล้ว ทุกอย่างก็ถือเป็นข้อยุติในการแข่งขันครั้งนั้น
ข้อดีของการใช้เทคโนโลยี goal line และ VAR
ข้อดีของการใช้เทคโนโลยีทั้ง 2 อย่างในการแข่งขันฟุตบอลมีความคล้ายคลึงกันอยู่แล้ว นั่นคือ
- ช่วยให้การตัดสินมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ลดความบาดหมางในทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
- ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากเกิดความผิดพลาดระหว่างแข่งขัน มีการทำฟลาว หรือ เรื่องของการยิงจุดโทษที่เห็นไม่ชัด เป็นต้น เพื่อให้การตัดสินเป็นไปอย่างถูกต้อง
- เป็นเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำสูง จึงมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย และในอนาคตจะมีการพัฒนาให้ดีขึ้นแน่นอน
- เมื่อมีการใช้เทคโนโลยีนี้ จะทำให้ผลการตัดสินแม่นยำมากขึ้น ทำให้คุณวางเดิมพันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และนี่คือข้อดีของการใช้เทคโนโลยีทั้ง 2 อย่างนี้ในการแข่งขันฟุตบอล แต่อย่างไรก็ตาม มันก็มีข้อเสียอยู่นิดหน่อย เพราะอาจทำให้เกมการแข่งขันต้องหยุดชะงักไป และคุณต้องมานั่งลุ้นกันใหม่ว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร แต่ถ้าผลมันออกมาตามที่เห็นไม่ได้เปลี่ยนไป คุณก็ยังสามารถคงผลการเดิมพันไว้เหมือนเดิมได้
หลักการทำงานของ goal line และ VAR
สำหรับหลักในการทำงานของเทคโนโลยี goal line และ VAR นั้นมีความแตกต่างกันอยู่ แต่การที่จะตัดสินฟุตบอลได้อย่างมีคุณภาพนั้นจะเป็นจำต้องใช้เทคโนโลยีนี้ โดยในเราจะมาพูดถึงหลักการทำงานของเทคโนโลยี 2 ตัวนี้กันว่ามีหลักการทำงานอย่างไรบ้าง
- หลักการทำงานของ VAR
VAR จะทำการตรวจสอบอัตโนมัติในทุกกรณีที่ส่งผลต่อจังหวะเป็นประตู จังหวะจุดโทษ และ จังหวะใบแดง โดยผู้เล่นหรือผู้ ฝึกสอน ไม่จำเป็นต้องขอให้มีการตรวจสอบ VAR โดยผู้ตัดสินสามารถหยุดเกมเพื่อตรวจสอบได้ โดยถ้าต้องการหยุดเกม ผู้ตัดสินจะยกมือข้างหนึ่งไว้ที่หูและเอามืออีกข้างยื่นไปข้างหน้า เพื่อให้ผู้เล่นหยุดเล่นและเริ่มตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบแล้ว ผู้ตัดสินจะอนุญาตให้เล่นต่อ แต่ถ้าเป็นการล้ำหน้า บอลออกนอกสนาม ผู้ตัดสินสามารถตัดสินใจจากข้อมูลที่ได้รับจาก VAR แต่ถ้าเป็นความคิดเห็น ทางผู้ตัดสินจะขอเรียกดูภาพช้าข้างสนามเพื่อประกอบการตัดสินใจ
- หลักการทำงานของ goal line
goal line มีลักษณะเป็นนาฬิกาข้อมือ โดยจะมีการส่งสัญญาณมาที่ตัวนาฬิกาเมื่อมีการทำประตูเกิดขึ้น เมื่อลูกบอลผ่านข้ามเส้นแล้วนั้นถือเป็นการได้ประตู สัญญาณจะถูกส่งมาจากกล้องที่ติดตั้งอยู่ที่ประตูของทั้งสองทีมฝั่งละ 7 ตัว โดยคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมกับกล้องทั้ง 14 ตัวนั้นสามารถถ่ายภาพได้ด้วยความเร็ว 500 ภาพต่อหนึ่งวินาที คอมพิวเตอร์จะจับทิศทางของลูกบอลแล้วนำมาสร้างเป็นภาพกราฟฟิค ผู้ตัดสินจึงทราบในทันทีว่าลูกบอลน่าจะเข้าประตูหรือไม่ ซึ่งเทคโนโลยีนี้มีความคลาดเคลื่อนเพียง +-5 มิลลิเมตรเท่านั้น
และนี่คือ หลักการทำงานของทั้ง 2 เทคโนโลยีที่จะช่วยให้ผลการตัดสินการแข่งขันมีความแม่นยำ โปร่งใส ยุติธรรม สามารถตรวจสอบได้
เราจะใช้เทคโนโลยี goal line และ VAR เมื่อใด
ในตอนนี้ทั้ง 2 เทคโนโลยีนี้มีการนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ไม่ได้ใช้อยู่ตลอดเวลาในการแข่ง แต่มีจังหวะให้ใช้อยู่เหมือนกัน
- สำหรับการใช้เทคโนโลยี goal line เมื่อเรามีความข้องใจว่าบอลข้ามเส้นหรือไม่ ตัวเทคโนโลยีจะต้องไม่ทำให้เกมหยุดชะงัก เป็นเทคโนโลยีที่สนับสนุนการตัดสินใจของผู้ตัดสินเท่านั้น ผู้ที่เห็นข้อมูลนี้คือทีมผู้ตัดสินเท่านั้น
- สำหรับเทคโนโลยี VAR เราจะใช้เมื่อต้องการตรวจสอบการเล่น และการเล่นนั้นมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง ผลการแข่งขัน เพราะฉะนั้นถ้าการตัดสินโดยกรรมการตัดสินชัดเจน ไม่มีข้อกังขา เทคโนโลยีนี้ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ เราจะใช้ก็ต่อเมื่อมีข้อผิดพลาดที่ชัดแจ้งและชัดเจน’ หรือ ‘เหตุการณ์สำคัญที่ผู้ตัดสินไม่เห็น’ ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนผลการแข่งขัน เช่น จังหวะเป็นประตู/ ไม่เป็นประตู จังหวะจุดโทษ/ ไม่จุดโทษ และเหตุการณ์ที่เกิดการรุกที่เกิดขึ้นก่อนจะมาเป็นจุดโทษ จังหวะใบแดงโดยตรง (ไม่ใช่จังหวะใบเหลืองที่สอง) และ ระบุตัวผู้เล่นผิดพลาด (เมื่อผู้ตัดสินคาดโทษ หรือ ไล่ออกผู้เล่นผิดคน)
เทคโนโลยี goal line และ VAR กับการแทงบอลมีความสัมพันธ์กันอย่างไร
สำหรับหลายคนอาจจะกำลังนึกอยู่ว่าเทคโนโลยีนี้ช่วยในการพนันบอลได้อย่างไร วันนี้เราจะมาดูกัน
- เมื่อการแข่งขันบอลที่มีความไม่ชัดเจน การใช้เทคโนโลยีนี้ จะทำให้ผลการตัดสินถูกต้อง ทำให้คุณสามารถวางเดิมพันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองทุกความต้องการได้
- ทำให้คุณมีเวลาที่จะไตร่ตรองการลงเดิมพัน เพราะถ้าเมื่อใดจะต้องใช้เทคโนโลยีเหล่านี้จะต้องหยุดเกม ทำให้มีเวลาว่าควรจะลงเดิมพันอย่างไรบ้าง เป็นต้น
นี่คือ ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีทั้ง 2 อย่าง และการ แทงบอล คุณอาจมองว่ามันเป็นจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณอาจมองว่าไม่สำคัญ แต่ความจริงแล้ว มันเป็นสิ่งที่คุณควรใส่ใจเลย เวลามีการตัดสินแบบนี้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ในการเล่นของคุณเอง
เทคโนโลยี goal line และ VAR กับการแทงบอลอย่างไรให้ชนะ
เรื่องของการแทงบอลให้ชนะนี้ มันก็เป็นผลมาจากการแข่งขันอยู่แล้ว และเมื่อมีข้อกังขาและใช้เทคโนโลยีมาช่วยตัดสิน ก็ทำให้ผลออกมาแม่นยำมากขึ้น และก่อนหน้าที่จะมีการลงเดิมพัน ทั้งนักพนันหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ก็ต้องมีการวางแผนการเล่นกันอยู่แล้ว และดูอยู่แล้วว่าควรจะลงเงินเท่าไร และต้องกำหนดด้วยว่าคุณต้องการกำไรเท่าไร ขาดทุนเท่าไร เพื่อให้คุณนั้นรู้จักจังหวะที่จะอยู่หรือจังหวะที่จะหยุด รวมทั้งต้องเข้าใจเทคนิคการแทงบอลทุกเทคนิค เพื่อจะได้นำมาใช้ให้ตรงกับสถานการณ์ของการแข่งขัน รับรองเลยว่า ถ้าคุณทำได้ตามนี้ คุณจะมีโอกาสชนะเดิมพันได้มากกว่าแพ้แน่นอน
สรุป goal line เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยตรวจสอบว่าบอลข้ามเส้นผ่านประตูหรือไม่ เข้ากรอบเขตโทษ ยิงประตูสำเร็จหรือเปล่า ส่วนเรื่องของ VAR เป็นการตรวจเช็คจังหวะการทำประตู การได้ใบแดงใบเหลือง จังหวะการได้จุดโทษ และจังหวะการทำฟลาวด้วย ช่วยให้การแข่งขันฟุตบอลมีคุณภาพมาตรฐาน และมั่นใจได้เลยว่า สามารถตรวจสอบได้ ทำให้ทุกคนมั่นใจได้ว่า ผลการตัดสินทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความยุติธรรม เกิดข้อยุติ ไม่เกิดข้อสงสัยในภายหลัง และที่สำคัญเทคโนโลยีมีไว้เพื่อตรวจจับความผิดปกติในเกมการเล่น แต่ไม่ได้ทำให้เกมต้องหยุดชะงักไปหรือสร้างความเสียหายกับใคร ๆ