การเล่นไพ่ บาคาร่า นั้น ได้รับความนิยมในคาสิโนทั้งรูปแบบปกติ และ บาคาร่าออนไลน์ ที่เล่นในคาสิโนออนไลน์ ซึ่งวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับเกมไพ่ บาคาร่า ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร มีกติกาในการเล่น, รูปแบบการวางเดิมพัน และ การจ่ายเงินเป็นอย่างไร เพื่อหาคำตอบไปด้วยกันว่าทำไม บาคาร่า จึงได้รับความนิยม และถูกยกให้เป็นหนึ่งการพนันสุดฮิตในคาสิโนชั้นนำ
กำเนิดบาคาร่ามาจากไหน
ต้นกำเนิดเกม บาคาร่า มาจากประเทศอิตาลี ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 โดยชื่อ บาคาร่า นั้นมีความหมายว่า ศูนย์ โดยเรียกตามกฎของเกม บาคาร่า ที่ให้ไพ่ J, Q, K มีค่าเป็นศูนย์นั่นเอง ต่อมา ในช่วงปี 1900 ฝรั่งเศสก็ได้นำ บาคาร่า ไปพัฒนาต่อเป็นเกมของตัวเองที่มีชื่อว่า “Chemin de fer” ซึ่งต่อมาก็เริ่มแพร่หลายเข้าไปในพื้นที่อื่น ๆ และเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น มีการพัฒนารูปแบบ บาคาร่า ออกไปหลากหลาย จนกลายเป็นเกมที่เรียกว่า “Punto Banco” ซึ่งมาจากคำว่า Punto ซึ่งมีความหมายว่า ผู้เล่น และ Banco หมายถึง เจ้ามือ ซึ่งได้กลายเป็นต้นตำรับของไพ่ บาคาร่า ในคาสิโนจนถึงปัจจุบันนี้
สำหรับการเล่นไพ่ บาคาร่า จะใช้ไพ่ทั้งหมด 8 สำรับสับไพ่เตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อยใส่เอาไว้ในถาดไพ่ โดยมีการแจกไพ่ ขั้นต่ำให้ฝ่ายเจ้ามือและผู้เล่น ฝั่งละ 2 ใบ โดยให้เราเลือกทายว่าฝั่งไหนระหว่าง ผู้เล่น (Player) กับ เจ้ามือ (Banker) จะมีจำนวนแต้มไพ่มากกว่ากัน หรือ มีแต้มใกล้เคียง 9 แต้มมากที่สุดจะเป็นฝั่งที่ชนะ ซึ่งมีลักษณะการเล่นคล้ายคลึงกับการเล่นไพ่ป๊อก แต่จะมีเงื่อนไขในการแจกไพ่ใบที่ 3 แตกต่างกัน ซึ่งจะอธิบายให้ฟังในเนื้อหาส่วนถัดไป
การเล่นไพ่ บาคาร่า แบบธรรมดาและการเล่น บาคาร่าออนไลน์ นั้นมีกติการการเล่นไม่แตกต่างกัน ซึ่งถ้าหากเคยเล่นกับคาสิโนมาก่อนแล้ว การเล่น บาคาร่าออนไลน์ จะสามารถเรียนรู้ได้ไม่ยากเลย และ คาสิโนออนไลน์บางที่ยังมีการนำเสนอรูปแบบการวางเดิมพันเพิ่มเติมเพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้เล่นอีกด้วย
กติกาบาคาร่า การแจกไพ่ใบที่ 3
วิธีการการเล่น บาคาร่า จะเริ่มจากดีลเลอร์ทำการแจกไพ่จำนวน 2 ใบ โดยการหงายไพ่ให้เห็นแต้มให้กับทั้งสองฝั่ง คือ เจ้ามือ และ ผู้เล่น จากนั้นดีลเลอร์จะทำการนับแต้มไพ่ของแต่ละฝั่ง แล้วบอกผลแพ้ชนะในรอบนั้น
สำหรับการเรียกไพ่ใบที่ 3 จะแบ่งออกเป็น 2 กรณีคือ การเรียกไพ่ใบที่ 3 ในส่วนของผู้เล่น และ ในส่วนของเจ้ามือ ซึ่งจะมีกฎในการตัดสินว่าจะแจกไพ่ใบที่ 3 หรือไม่ ดังนี้
- ถ้าฝั่งผู้เล่น หรือ เจ้ามือ ได้แต้มรวม 8 – 9 แต้มแล้ว ไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่มเติมอีก ให้นำแต้มตรงนั้นมาตัดสินแพ้ชนะทันที เรียกว่า เนเชอรัล ซึ่งคล้ายกับการ ป๊อก 8 ป๊อก 9 ของการเล่นไพ่ป๊อกเด้งนั่งเอง โดยใครได้แต้มเยอะกว่าถือว่าชนะ
- ถ้าฝั่งผู้เล่น ได้แต้มรวม 6 – 7 ฝั่งผู้เล่นไม่ต้องจั่วไพ่เพิ่ม ให้อยู่เฉยๆ (Still – อยู่) และไปดูฝั่งเจ้ามือ
– ถ้าฝั่งเจ้ามือได้แต้ม 6 – 7 ก็ไม่ต้องจั่วเช่นกัน ให้ตัดสินแพ้ชนะเลย
– แต่ถ้าเจ้ามือได้แต้ม 0 – 5 ให้จั่วไพ่เพิ่ม 1 ใบ ก่อนคำนวณแต้มบนหน้าไพ่ ตัดสินแพ้ชนะ - ถ้าฝั่งผู้เล่น ได้แต้มรวม 0 – 5 ฝั่งผู้เล่นจะต้องจั่วไพ่เพิ่มเติมอีกใบที่ 3 เมื่อฝั่งผู้เล่นจั่วไพ่เสร็จแล้ว จะมีกฎเพิ่มเติม ของทางฝั่งเจ้ามือ ว่าเจ้ามือจะต้องจั่วไพ่เพิ่มเติมหรือไม่ต้องจั่ว โดยพิจารณาจากแต้มรวมของไพ่ทั้ง 2 ใบในมือ ดังนี้
– 0 – 2 แต้ม ให้เจ้ามือจั่วไพ่เพิ่มอีก 1 ใบ เช่นกันตามฝั่งผู้เล่น
– 3 แต้ม ให้เจ้ามือจั่วไพ่อีก 1 ใบได้ หากไพ่ใบที่ 3 ของผู้เล่น ไม่ใช่เลข 8
4 แต้ม ให้เจ้ามือจั่วไพ่อีก 1 ใบได้ หากไพ่ใบที่ 3 ของผู้เล่น อยู่ระหว่าง 2 ถึง 7
– 5 แต้ม ให้เจ้ามือจั่วไพ่อีก 1 ใบได้ หากไพ่ใบที่ 3 ของผู้เล่น อยู่ระหว่าง 4 ถึง 7
– 6 แต้ม ให้เจ้ามือจั่วไพ่อีก 1 ใบได้ หากไพ่ใบที่ 3 ของผู้เล่น อยู่ระหว่าง 6 ถึง 7
– 7 แต้ม เจ้ามืออยู่เฉยๆ ไม่ต้องจั่วไพ่ดูตามภาพด้านล่างนี้กันเลยครับ
บาคาร่านับแต้มยังไง
สำหรับการนับแต้มหน้าไพ่ของ บาคาร่า รวมถึง บาคาร่าออนไลน์ จะใช้หลักการเดียวกันกับการนับแต้มของการเล่นไพ่ป๊อก ซึ่งจะตัดสินผลแพ้ชนะว่าใครมีแต้มเข้าใกล้ 9 มากกว่ากัน โดยมีหลักในการนับแต้มไพ่ ดังนี้
- 2 จะมีแต้มหน้าไพ่ เท่ากับ 2 แต้ม
- 3 จะมีแต้มหน้าไพ่ เท่ากับ 3 แต้ม
- 4 จะมีแต้มหน้าไพ่ เท่ากับ 4 แต้ม
- 5 จะมีแต้มหน้าไพ่ เท่ากับ 5 แต้ม
- 6 จะมีแต้มหน้าไพ่ เท่ากับ 6 แต้ม
- 7 จะมีแต้มหน้าไพ่ เท่ากับ 7 แต้ม
- 8 จะมีแต้มหน้าไพ่ เท่ากับ 8 แต้ม
- 9 จะมีแต้มหน้าไพ่ เท่ากับ 9 แต้ม
- 10, J, Q, K จะมีแต้มหน้าไพ่ เท่ากับ 0 แต้ม
สำหรับการตัดสินในกรณีที่ทั้งฝั่งผู้เล่น และ ฝั่งเจ้ามือ มีแต้มเท่ากัน จะไม่ใช้วิธีดูดอกไพ่ว่าแต้มของใครใหญ่กว่า จะถือว่าผลออกมาเสมอ และถ้าหากผู้เล่นไม่ได้วางเดิมพันว่าทั้ง 2 ฝั่งจะเสมอกัน ก็จถือว่าเสียเงินเดิมพันทันที
รูปแบบการวางเดิมพัน บาคาร่า
ตำแหน่งการวางเดิมพันของเกม บาคาร่า ส่วนมากจะมีอยู่ 5 ตำแหน่ง แต่อาจจะมีคาสิโนออนไลน์บางแห่งที่มีรูปแบบการวางเดิมพัน บาคาร่าออนไลน์ เพิ่มเติมเพื่อให้ได้ลุ้นกันสนุกมากขึ้น สำหรับการวางเดิมพันเล่น บาคาร่า ตามกติกาทั่วไป พร้อมทั้งอัตราการจ่ายเงิน จะมีดังนี้
- เจ้ามือ (Banker) จะเป็นการวางเดิมพันว่า ฝั่งเจ้ามือ จะเป็นผู้ที่ชนะ อัตราการจ่ายคือ 1 : 1
- ผู้เล่น (Player) เป็นการวางเดิมพันว่า ฝั่งผู้เล่น จะเป็นฝั่งที่จะชนะ อัตราการจ่ายคือ 1 : 1
- เสมอ (Tie) จะเป็นการวางเดิมพันว่า ไพ่ของทั้งสองฝั่ง จะมีแต้มเท่ากัน อัตราการจ่ายคือ 1 : 8
- เจ้ามือคู่ คือ การวางเดิมพันว่า ไพ่ 2 ใบแรกของฝั่งเจ้ามือ จะมีหน้าไพ่ที่เหมือนกัน มีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 : 11
- ผู้เล่นคู่ คือ การวางเดิมพันว่า ไพ่ 2 ใบแรกของฝั่งผู้เล่น จะมีหน้าไพ่ที่เหมือนกัน มีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1 : 11
บาคาร่าออนไลน์
เพราะความนิยมในเกมการเล่น บาคาร่า ทำให้เมื่อมีการปรับตัวของธุรกิจต่าง ๆ เข้าสู่ยุคออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ จึงถือกำเนิดขึ้นมา เพื่อตอบสนองต่อความนิยมของผู้ที่ชื่นชอบการพนันในรูปแบบเดิม แต่แสวงหาความสะดวกสบายที่จะได้รับจากการเล่นคาสิโนออนไลน์
สำหรับกติกาการเล่น บาคาร่าออนไลน์ ที่เปิดให้เล่นกันในคาสิโนออนไลน์อยู่นั้น จะมีโต๊ะบาคาร่าให้เลือกอยู่ 2 แบบ
- แบบที่มีคอมมิชชั่น คือ จะหัก 5% จากเงินเดิมพันเมื่อแทงฝั่งเจ้ามือ (Banker) แล้วผลออกมาเป็นเจ้ามือชนะในตานั้น เช่น เมื่อเราแทงฝั่งเจ้ามือ 1000 บาท แล้วชนะ เราจะได้เพียง 950 บาท รวมกับต้นทุนที่แทงไปจะเป็น 1950 บาท แต่ถ้าวางเดิมพันว่าฝ่ายผู้เล่น (Player) เป็นผู้ชนะ จะไม่มีการคิดค่าคอมมิชชั่น
- แบบที่ไม่มีคอมมิชชั่น การแทงในฝั่งผู้เล่น (Player) และ ฝั่งเจ้ามือ (Banker) เมื่อชนะ ทั้งสองฝั่งจะมีอัตราจ่ายที่ 1 : 1 แต่มีกติกาพิเศษ ที่แทงฝั่งเจ้ามือจะจ่ายเพียงครึ่งหนึ่ง หรือ 0.5 : 1 นั่นคือ การที่เจ้ามือได้ 6 แต้ม เช่น แทงฝั่งเจ้ามือ ไป 200 บาท แล้วปรากฏว่า ไพ่ฝั่งเจ้ามือได้ 6 แต้ม ส่วนไพ่ฝั่งผู้เล่นได้ 5 แต้ม แสดงว่าฝั่งเจ้ามือชนะด้วยจำนวนแต้ม 6 แต้ม ดังนั้น ผมจะได้เพียง 100 บาท รวมทุนแล้วเป็น 300 บาท
เกมไพ่ บาคาร่า มีกติกาการเล่นที่ง่าย สามารถเลือกวางเดิมพันได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีอัตราค่าตอบแทนที่ถือว่าสูง เมื่อเทียบกับการพนันชนิดอื่น ๆ ซึ่ง การเล่น บาคาร่าออนไลน์ ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน คาสิโนออนไลน์บางแห่งมีแอปพลิเคชันให้ดาวน์โหลดมาไว้บนมือถือได้ด้วย ซึ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้เล่นสามารถเล่นได้ทุกที่ทุกเวลา ทั้งหมดจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ บาคาร่า ได้รับควานิยมอย่างต่อเนื่อง
